จะกล่าวถึงโฉมเจ้าเณรแก้ว |
พอแสงทองผ่องแผ้วพระเวหา |
คิดคะนึงถึงพิมนิ่มนวลตา |
ล้างหน้าแล้วก็นุ่งสบงพลัน |
ห่มดองครองคาดราตคด |
พร้อมหมดแบกบาตรแล้วผายผัน |
ดูทุกตรอกซอกละเมาะเสาะสำคัญ |
เข้าในเมืองสุพรรณด้วยทันใด |
มินานถึงบ้านท่าพี่เลี้ยง |
เดินเมียงชม้ายตาอัชฌาสัย |
เห็นม้าตั้งอยู่ยังไม่มีใคร |
ก็หยุดยืนสำรวมใจจะดูที ฯ |
ครานั้นนางพิมนิ่มน้อง |
อยู่ในห้องกับนางสายทองพี่ |
จัดแจงข้าวปลาทารพี |
ยังไม่มีพระสงฆ์องค์ใดมา |
เปิดหน้าต่างนางพิมเจ้าแลดู |
เห็นเจ้าเณรยืนอยู่ไม่เงยหน้า |
ห่มดองครองแนบกับกายา |
สีกาสาว์จับเนื้อดังนวลจันทร์ |
เดชะพระเวทวิทยามนตร์ |
เผอิญดลใจพิมให้ป่วนปั่น |
ห่มผ้าคว้าขันข้างบาตรพลัน |
กับสายทองพากันก้าวลงมา |
เปิดประตูดังอาดเดินนาดกราย |
เณรพลายได้ยินก็เงยหน้า |
พิมน้อยชม้อยพอปะตา |
ก็รู้ว่าเณรแก้วผู้แววไว |
หลบมิดสะกิดพี่สายทอง |
ไฮ้น้องนี้ไม่ลงไปใส่ได้ |
เห็นหน้าเณรพลายฉันอายใจ |
ส่งขันข้าวบาตรให้สายทองมา |
สายทองย่างย่องขยับยิ้ม |
นางพิมหลบเหลื่อมเข้าแอบฝา |
เณรแก้วประสิทธิ์วิทยา |
เป่ามหาละลวยลมประสมนาง |
บันดาลซ่านเสียวสวาทพิม |
ยืนยิ้มปิ้มจะแล่นลงไปล่าง |
สายทองประคองขันข้าวบาตรพลาง |
วางลงยกมือไหว้เจ้าเณรพลาย |
เณรแก้วลดบาตรลงจากบ่า |
ฉันบุกมาบิณฑบาตจนพานสาย |
ไทยทานบ้านอื่นก็เรียงราย |
ไม่รักรับรีบหมายจำเพาะมา |
เป็นเหตุก็เพราะเทศน์เมื่อวานนี้ |
เจ้ากัณฑ์หนีนึกสำคัญว่าเคืองข้า |
จะใคร่แจ้งคดีที่สีกา |
ทั้งจะใคร่สนทนาด้วยพี่นาง |
สายทองยกของใส่บาตรเณร |
พ้นเพลแล้วนิมนต์มาบ้านบ้าง |
สงบกังวลไว้ในใจพลาง |
ใส่บาตรแล้วก็ย่างขึ้นบันได |
เณรแก้วคลาดแคล้วออกจากรั้ว |
แฝงตัวจะดูพิมพิสมัย |
นางพิมเยี่ยมหน้าทอดตาไกล |
แลไปนอกรั้วเห็นเณรพลาย |
เณรกอดบาตรชิดทำปริศนา |
นางพิมยิ้มหลบหน้าเข้ามาหาย |
เจ้าเณรเดินตามทางย่างกราย |
ไม่วางวายแต่คะนึงถึงพิมน้อย |
ยิ่งไกลบ้านก็ให้พล่านให้พลุ่งจิต |
ยิ่งคิดคิดหลงเหลียวอยู่บ่อยบ่อย |
เอะสายสายทองจะปองคอย |
ก็รีบรอยมายังวัดป่าเลไลย |
ยกบาตรไปอังคาสพระอาจารย์ |
คลานมาเปลื้องผ้าหาช้าไม่ |
ปรนนิบัติมิให้ขัดเคืองใจ |
ฉันแล้วเข้าในที่นอนครวญ |