ครานั้นนางพิมพิลาไลย |
กำเริบใจไหวหวั่นให้ปั่นป่วน |
เห็นสายทองใส่บาตรทำนาดนวล |
รีรวนรอช้าอยู่ว่าไร |
พยักหน้าสายทองเข้าห้องนอน |
อ้อนวอนกระซิบถามความสงสัย |
ไปใส่บาตรช้านานประการใด |
ข้าเห็นปากไบ่ไบ่กับเณรพลาย |
สายทองว่าพี่พูดอะไรมี |
ไปกินข้าวเสียกับพี่ตะวันสาย |
พร้อมกันปั่นฝ้ายให้สบาย |
ตะวันบ่ายพี่จะพาไปอาบน้ำ |
ถึงข้าวจะให้กินไม่ยินดี |
ไม่บอกจะเซ้าซี้ให้ยังค่ำ |
เห็นยืนยิ้มพรายพูดกันหลายคำ |
แต่เพียงนี้พี่ยังอำไม่บอกกัน |
เมื่อเปล่าเปล่าพี่จะเดาไปไหนได้ |
ถ้าจริงจะบอกให้ไม่เดียดฉันท์ |
เจ้ากูว่าแต่มานี่ไกลครัน |
แต่เท่านั้นเจ้ากูก็กลับไป |
เถอะแล้วไปเถิดไม่บอกข้า |
เบื้องหน้าคงจะรู้หามิดไม่ |
แล้วลุกออกจากห้องด้วยหมองใจ |
นางไม่กินข้าวด้วยสายทอง |
ต่างคนกินเสร็จสำเร็จอิ่ม |
นางพิมฉวยไนเข้าในห้อง |
ปั่นฝ้ายข้าไทอยู่ก่ายกอง |
จนบ่ายสองโมงแล้วก็เสร็จพลัน |
ต่างคนต่างจัดพัดด้าย |
สายทองเตือนน้องขมีขมัน |
ไปอาบน้ำให้สบายบ่ายลงครัน |
นางพิมว่าฉันไม่รักไป |
สายทองปลอบวอนชะอ้อนว่า |
ไปตีนท่าเถิดจะบอกอะไรให้ |
อย่ามาหลอกจะบอกฉันทำไม |
เต็มใจไว้เถิดแต่คนเดียว |
ข้าร้อนนะอย่างอนประชดให้ |
จะอาบน้ำก็ไม่ไปเฝ้าโกรธเกี้ยว |
เต็มใจอะไรข้าว่าไปเจียว |
เจ้ากูเกี้ยวข้าแล้วฤาเณรพลาย |
ไม่ไปนะเจ้าอย่าเซ้าซี้ |
ไม่พอที่ที่จะช้าตะวันบ่าย |
สายทองจากห้องย่องเยื้องกราย |
บ่าวไพร่ทั้งหลายก็ตามมา |
อีไทอีพรมอีส้มแป้น |
อีแตนตามสายทองไปตีนท่า |
ลงอาบน้ำดำเล่นเป็นโกลา |
เล่นหาเล่นไล่กันพัลวัน ฯ |
ครานั้นจึงโฉมเจ้าเณรพลาย |
ตะวันชายบ่ายเยื้องพระสุริย์ฉัน |
แสนคะนึงถึงพิมนิ่มนวลจันทร์ |
ได้สำคัญไว้จากนางสายทอง |
ป่านนี้พิมพี่จะลงท่า |
จะไปหาให้พบประสบสอง |
คิดแล้วหยิบผ้ามาห่มดอง |
ย่องลงบันไดไปสุพรรณ |
ถึงบ้านพิมเข้าพลันมิทันช้า |
ตรงลงไปท่าทันใดนั่น |
เข้าแอบซุ่มพุ่มไม้ได้สำคัญ |
พวกข้าไททั้งนั้นไม่เข้าใจ |
เห็นสายทองสีตัวอยู่ริมตลิ่ง |
เอาดินทิ้งแล้วกระแอมพยักให้ |
สายทองย่องมาหาไวไว |
ก็พากันหลีกไปให้ลับคน |
ครั้นถึงจึงนั่งลงทันใด |
ที่ร่มริมโศกใหญ่ข้างใต้ต้น |
เป็นเซิงซุ้มพุ่มรอบดูชอบกล |
เบื้องบนดอกย้อยระย้าบาน |
เณรแก้วยิ้มแล้วจึงปราศรัย |
ขออภัยเถิดอย่าว่าข้าหักหาญ |
เณรน้องปองป่วนมิควรการ |
แต่ทนทุกข์ทรมานมาหลายวัน |
แสนยากที่จะพากจะเพียรผ่อน |
ให้หยุดหย่อนร้อนรนเป็นพ้นกลั้น |
มาพบพี่ก็เป็นที่สำคัญครัน |
ข้าหมายมั่นจะมอบชีวาลัย |
อันเณรน้องเหมือนกระต่ายหมายชมจันทร์ |
อยู่ดินฤาจะดั้นขึ้นไปได้ |
แต่ตรอมตรอมผอมร่างก็บางไป |
ด้วยทางไกลกลางหาวเมื่อคราวปอง |
ได้องค์อินทร์แลจะสิ้นสำเร็จตรม |
จะได้ชมกระต่ายสวรรค์จันทร์ผยอง |
อินทราอุปมาเหมือนสายทอง |
พิมน้องเหมือนกระต่ายในวงจันทร์ |
มาพึ่งพิงถ้าไม่ทิ้งธุระน้อง |
คงเป็นสองกระต่ายชมสมสวรรค์ |
จะขอบคุณที่การุณให้ครามครัน |
กว่าชีวันฉันจะวอดชีวาวาย |
พี่เอ็นดูช่วยชูให้น้องชื่น |
ให้คลายคืนโศกแสนนั้นเสื่อมหาย |
เหมือนชุบชีพอย่าให้รีบถึงเรือนตาย |
เณรพลายนี้ไม่พลั้งไม่แพลงคำ |
แต่วันนี้จนพี่สายทองตาย |
น้องนี้หมายจะโอบอุ้มอุปถัมภ์ |
พูดไว้ฉันใดจงจดจำ |
กำหนดแน่อยู่ไม่พล้ำไม่พลั้งเลย |