นางพิมพิลาไลยครั้นได้ฟัง |
ยังแน่นอนอยู่หาพลั้งหาพล้ำไม่ |
โต้ตอบคดีพี่เลี้ยงไป |
น้องนี้ไม่คิดเลยพี่สายทอง |
ธรรมดาเกิดมาเป็นสัตรี |
ชั่วดีคงได้คู่มาสู่สอง |
มารดาย่อมอุตส่าห็ประคับประคอง |
หมายปองว่าจะปลูกให้เป็นเรือน |
อันหนึ่งเราเขาก็ว่าเป็นผู้ดี |
มั่งมีแม่มิให้ลูกอายเพื่อน |
จะด่วนร้อนก่อนแม่ทำแชเชือน |
ความอายจะกระเทือนถึงมารดา |
ถ้าสิ้นบุญคุณแม่มิได้แต่ง |
จะพลิกแพลงไปก็ตามแต่วาสนา |
จะด่วนร้อนก่อนแม่ไม่เข้ายา |
ใช่ว่าจะไร้ชายที่ชอบพอ |
ถ้ารูปชั่วตัวเป็นมะเรงเรื้อน |
ไม่เทียมเพื่อนเห็นจะจนซึ่งคนขอ |
ถ้ารูปดีมีเงินเขาชมปรอ |
ไม่พักท้อเลยที่ชายจะหมายตาม |
อดเปรี้ยวกินหวานตระการใจ |
ลูกไม้ฤาจะสุกไปก่อนห่าม |
มีแต่แป้งแต่งนวลไว้ให้งาม |
ร้อนใจอะไรจะถามทุกเวลา |
ทุกข์ใหญ่เหมือนไฟอยู่ในอก |
ไหม้หมกก็ไหม้อยู่ในหน้า |
ถ้ายามอยากอยู่เหมือนเรากินข้าวปลา |
ถึงกระนั้นจะว่าก็สมควร |
มาชมจันทร์เล่นด้วยกันสบายใจ |
พี่พูดอะไรเช่นนั้นให้ปั่นป่วน |
ถ้ารักนวลสงวนหน้าไว้ให้นวล |
อย่ามากวนข้าไม่พูดไม่พอใจ ฯ |
นี่ใครกวนชวนแม่ให้มีผัว |
คิดถึงตัวใช่จะชักจะสื่อให้ |
ฤาอยู่มาแต่ก่อนร่อนชะไร |
พี่ได้ว่ากล่าวอะไรมี |
หาวนอนไปนอนเสียเถิดฤา |
จูงมือพิมน้อยไปในที่ |
สวมสอดกอดรัดแล้วพัดวี |
นอนเถิดพี่จะกล่อมให้พิมนอน |
โอ้ว่าสงสารกุมารเอ๋ย |
กระไรเลยเตร็ดเตร่เที่ยวเร่ร่อน |
ไม่คิดยากหมายฝากชีวาวอน |
ต่างเมืองอุตส่าห์จรกระเจิงมา |
อกจะหักด้วยความรักไม่เหมือนคิด |
หมายมิตรก็ไม่สมปรารถนา |
จึงหลีกเลี่ยงเลยลัดเข้าวัดวา |
ทรมาบวชเบื่อระบมใจ |
อนึ่งวัดกับบ้านก็พานห่าง |
ไกลทางเที่ยวบิณฑบาตได้ |
พอเห็นสีกาแล้วกลับไป |
แสนอาลัยระลึกทุกเวลา |
พ้นเพลเณรน้อยเข้ามาเล่า |
ซบเซาซ่อนอยู่ที่หน้าท่า |
ไม่มีใครที่จะได้สนทนา |
แต่เวียนมามิได้เหนื่อยอนาถใจ |
เสียดายรูปซูบโศกด้วยแสนรัก |
จะปล้ำปลักทนทุกข์ไปถึงไหน |
โอ้พิมนิ่มเนื้อนวลละไม |
นอนนะแม่นอนในที่นอนนาง |
โอละเห่โอละช้าพ่อเณรแก้ว |
หลับแล้วฤาสายทองจะนอนบ้าง |
กล่อมพลางนางพัดให้พิมพลาง |
กางกรกอดพิมยิ้มละไม ฯ |
นางพิมว่าไฮ้พี่สายทอง |
กล่อมน้องเอาเณรมาใส่ให้ |
ลงไปใส่บาตรกันไม่ทันไร |
หลงใหลไปแล้วฤาสายทอง |
เมื่อเช้าน้องถามไม่อยากรับ |
ไม่ทันจับเดี๋ยวนี้ออกให้คล่องคล่อง |
ไปอาบน้ำเห็นจะพบสบทำนอง |
ล่องน้ำฤาจึงช้ากว่าทุกวัน |
อย่านอนใกล้ไปเสียให้พ้นมุ้ง |
ไม่ทันรุ่งข้าขี้คร้านทำนายฝัน |
แม่คุณต่อจะวุ่นวันนี้ครัน |
จะละเมอกอดกันให้ตกใจ ฯ |
สายทองฟังน้องทำหน้าขึง |
ฟ้าผึ่งเถอะมาเป็นเช่นนี้ได้ |
จริงจริงคะน่าชังฉันพลั้งไป |
มาจะเล่าความให้แม่พิมฟัง |
ไปอาบน้ำวันนี้เจ้าเณรแก้ว |
มาแอบพุ่มนมแมวอยู่ข้างหลัง |
รำคาญใจไฮ้ว่าเป็นน่าชัง |
มิแล้วดอกกระมังมาเย้ยกัน |
ถึงไม่เล่าก็เราไม่ทุกข์โศก |
พี่ไปพบก็เป็นโชคไม่เดียดฉันท์ |
แต่ใส่บาตรประหลาดนัยน์ตาครัน |
พูดพูดแล้วก็ผันชม้อยมา |
แต่ปากยิ้มกริ่มกันกับสายทอง |
ทำทำนองหางตามาดูข้า |
แต่เทศน์อยู่เจ้ากูยังเล่นตา |
ข้าดูหน้าไม่ได้เจ้าเณรพลาย |
จริงจริงคะแต่ข้าเป็นผู้ใหญ่ |
ดูไม่ได้ตาแหลมนี่ใจหาย |
เหลือบไปปะตาข้านึกอาย |
แยบคายของเจ้ากูดูครันครัน |
เจ้ากูว่าสีกาหาทักไม่ |
เห็นว่าไร้ยากทรัพย์ถึงคับขัน |
เป็นเพื่อนเล่นเห็นหน้ามาด้วยกัน |
เมื่อกระนั้นน้อยน้อยกับนวลนาง |
แต่เพียงยากจากบ้านสุพรรณไป |
ถึงกระไรก็จะทักสักคำบ้าง |
ทุกวันนี้จนใจมิได้พราง |
บ้านก็ไกลกับนางต้องค้างคืน |
ไม่ต้องการก็ไม่ซานมาถึงนี่ |
กาญจน์บุรีมีวัดอยู่ดาษดื่น |
อยู่ไม่ได้ดังไก่อันไกลครืน |
อุตส่าห็ฝืนฝ่ามาด้วยความรัก |
น้อยใจจนได้เทศนา |
ควรฤาสีกาไม่รู้จัก |
เหลือทนแล้วจึงชนเข้ามาทัก |
แม้นจะผลักเสียแล้วก็ตามที |
ถึงคุณยายฝ่ายแม่ศรีประจัน |
ก็ชอบกันกับคุณแม่ทองประศรี |
ก็รู้เช่นเห็นทั่วว่าชั่วดี |
จงปรานีเณรแก้วผู้คนจน |
แม้นมินับรับเรื่องธุระรัก |
ขอพบพักตร์พิมพูดแต่สักหน |
สั่งมาว่าวอนให้ผ่อนปรน |
หมายกุศลเสี่ยงสร้างสำคัญมา |
เมื่อวันเทศน์สังเกตด้วยนิมิต |
ประจักษ์จิตแน่แน่วอยู่หนักหนา |
ว่าเหาะเหินเดินได้ในเมฆา |
เด็ดดวงดาราภิรมย์ชม |
กล้ำกลืนตื่นขึ้นยังเต็มปาก |
ก็หมายมากอยู่ว่าคิดคงจะสม |
จึงบุกบิณฑบาตมาซานซม |
ด้วยปรารมภ์จะใคร่รู้ว่าร้ายดี |
สั่งสอนมาให้วอนแม่พิมดู |
พอตรู่ตรู่จะมาให้ถึงนี่ |
พี่ขับขู่วุ่นวายเป็นหลายที |
ยังเซ้าซี้ว่าวอนให้ผ่อนปรน |
เป็นจนใจก็ไม่รู้ที่จะคิด |
ครั้นพินิจดูก็เห็นจะเป็นผล |
แม้นจะล่อลวงเล่นพอเป็นกล |
กาญจน์บุรีฤาจะด้นมาสุพรรณ |
เมื่อวันเทศน์สังเกตด้วยนิมิต |
ก็ดลจิตให้แม่พิมเพอิญฝัน |
ต่อจะคู่สู่สมภิรมย์กัน |
แม่นมั่นแม่อย่าแหนงอย่าแคลงใจ ฯ |