ครานั้นนางพิมพิลาไลย |
ถอนใจสะอึกสะอื้นอ้อน |
ระทวยทอดกอดแก้วยิ่งอาวรณ์ |
พ่อมานอนให้พิมนี้ตรอมใจ |
ก็สาสมที่อารมณ์เราโฉดชั่ว |
รักตัวแล้วหารักสบายไม่ |
เช้าค่ำจะร่ำโศกเสมอไป |
สักเมื่อไรจะหายวายรำคาญ |
รักพิมพิมรักพี่พลายแก้ว |
รักแล้วปลูกรักมาหักหาญ |
มาหักต้นโค่นทิ้งทรมาน |
โอ้รักก็จะรานไปแรมไกล |
แม่ตีฤาพี่สายทองด่า |
จะปรึกษาปรารภกับใครได้ |
ถึงทรวงร้อนเหมือนนอนในกองไฟ |
พ่ออยู่ไกลไหนจะแจ้งซึ่งกิจจา |
พ่ออยู่วัดขัดเคืองขึ้นข้างบ้าน |
สุดที่พิมจะด้านออกไปหา |
ค่ำแล้วพ่อแก้วจงกลับมา |
ให้เห็นหน้าทุกคืนพอชื่นใจ ฯ |
เจ้าพลายแก้วปลอบแล้วลูบประโลม |
พี่รักโฉมหาให้ห่างระคางไม่ |
ไก่แก้วขันแจ้วจะจำไกล |
อย่าเสียใจพี่จะมาหาทุกคืน |
พอพลบจะหลบมาโลมน้อง |
ถึงแห่งห้องให้หายโศกสะอื้น |
จากพิมปิ้มพี่นี้ต้องปืน |
ขยับยืนส่งพี่พอพ้นเรือน |
ปลอบพลางทางโอบกระหวัดอุ้ม |
ฟักฟูมฟายน้ำตาหน้าเฝื่อน |
ถึงประตูหรุบหรู่ด้วยแสงเดือน |
นี่เนื้อเหมือนกรรมวิบากระบมใจ |
แสงทองส่องฟ้ามาเหลืองเหลือง |
จะย่างเยื้องจากนางไม่ย่างได้ |
ทรุดนั่งพะวังพะว้าด้วยอาลัย |
ประโลมจูบลูบไล้ไม่สมประดี |
ปิดประตูอยู่เถิดนะน้องเอ๋ย |
อย่าโศกเลยลุกเลื่อนออกจากที่ |
แสนสวาทไม่น้อยร้อยทวี |
ยิ่งเหลียวหลังยิ่งมีอาลัยลาน |
พิมน้อยละห้อยหับประตูแล้ว |
พลายแก้วแข็งใจไปจากบ้าน |
ถึงวัดลัดหนีท่านสมภาร |
นมัสการชีต้นให้บวชพลัน ฯ |