คืนนั้นเดือนหงายดาวกระจ่างราวกับกลางวัน สายทองชวนเจ้าพิมให้นั่งชมจันทร์อยู่ด้วยกันตามลำพังพลางว่า ดูสิน้องเห็นไหมดวงจันทร์ส่องสว่างราวกับเงินยวง เหตุไฉนไยจึงหวงกระต่ายไว้ในวงร้อยปีดีดักก็มิได้ไปไหน ดูเดือนก็ชวนให้คิดถึงตัวเราพี่น้องทั้งสองคนถูกหวงไว้เหมือนดวงจันทร์หวงกระต่ายไร้คู่อยู่กับฟากฟ้าสุราลัย ปล่อยให้กระต่ายไพรพร่ำเพ้อมองหาอยู่ทุกวี่วัน พี่นี้หรือจะว่าไปก็เป็นทั้งญาติเป็นทั้งทาส อุตส่าห์ฟูมฟักอุ้มชุน้องมาแต่เล็กจนเติบกล้า แต่อนิจจาเอ๋ยเกิดมาไม่รู้ว่าลูกว่าผัว อันแหวนทองนั้นแม้จะสุกโดยทองคำธรรมชาติแต่หาหัวพลอยประดับไม่ได้แล้วก็หามีค่าไม่ พี่เองถ้าแม้นมิรักพิมเจ้าแล้ว ไหนเลยจะมัวรออยู่คงจะจากเจ้าไปเสียนานแล้ว วิตกแต่ว่าพิมน้องยังไม่มีเหย้ามีเรือน พี่จึงต้องอยู่เป็นหูเป็นตา

แม่เล่าก็เฒ่าชะแรแก่ชราลงทุกวันเปรียบเหมือนไม้อยู่ใกล้ฝั่ง เพียงน้ำเซาะก็จะพังครืนลงไป สิ้นบุญแม่ศรีประจันเสียแล้วก็มีแต่สาระพัดจะกระจัดกระเจิง พวกไอ้หนุ่มนักเลงทั้งหลายก็จะพากันดูถูกว่าลูกหาพ่อหาแม่ไม่ พี่คิดอยู่เช่นนี้ตลอดมาจึงมิสบายใจเลย ถ้าพี่แม่ได้คู่สู่สมเสียแต่เมื่อแม่ยังไซร้ก็จะได้เบาใจนอนตาหลับ พิมน้องจะเห็นเป็นประการใดหรือ

เจ้าพิมฟังสายทองว่า รู้สึกเอะใจแต่เมื่อตรองไปก็มั่นว่าเห็นทีจะมีสายมีสื่อเข้ามาเป็นแน่ ตัวเองไม่รู้ว่าพี่สายทองจะมาไม้ไหนจึงไม่ยอมเปิดใจใหสายทองรู้ได้แต่โต้ว่า พี่สายทองว่าเช่นนั้นก็ชอบอยู่ แต่น้องหาคิดเช่นพี่ไม่ อันธรรมดาเกิดมาเป็นหญิงชั่วดีก็คงได้คู่มาครอง แม่อุตส่าห์ประคับประคองอุ้มชูก็หมายจะปลูกฝังให้ลูกมิอายชาวบ้าน จะรีบด่วนก่อนแม่ใครรู้เข้าจะมิอายเขาแย่หรือ หากรออยู่สิ้นบุญแม่ยังมิได้แต่ง จะพลิกแพลงไปอย่างไรนั่นก็สุดแต่บุญวาสนาแต่ปางก่อนได้ทำมา พี่จะมาคิดเช่นนี้ชอบแล้วหรือ

อนึ่งเล่าตัวน้องก็ใช่ว่าจะไร้ชายที่มาชอบพอ นอกจากจะรูปชั่วตัวเป็นมะเร็งเรื้อนก็ไปอีกอย่าง ถ้ารูปดีมีเงินคนก็ชมกรอไปเสียอีกไม่ต้องไปเที่ยวหาหรอก อันลูกไม้ฤาจะสุกไปก่อนห่าม อดเปรี้ยวไว้กินหวานไม่รำคาญใจ พี่มาพูดอะไรในยามเช่นนี้ มีแต่แป้งก็แต่งนวลให้งามไว้ถึงเดือดเนื้อร้อนใจก็เก็บเอาไว้ในอก มาชมจันทร์กันเล่นดีกว่า พูดจาให้ร้อนใจ

สายทองได้ยินน้องว่าทำท่าจะรู้ทันก็แกล้งพูดขึงขังว่า นี่ใครมากวนชวนให้มีผัวพี่คิดถึงตัวของพี่เองต่างหาก ไม่อยากจะชักสื่อให้ใครหรอก ถ้าหากว่าเป็นอย่างน้องคิดทำไมพี่จึงมานั่งนิ่งอยู่จนป่านนี้ เอาเถอะเมื่อไม่พอใจหาวนอนอยู่หวอด ๆ ก็ไปนอนกันเสียทีเถอะ ว่าแล้วสายทองก็จูงมือพิมน้อยไปนอนสวมกอด แล้วพัดวีพลางว่านอนเสียเถิดพี่จะกล่อมให้พิมนอน

โอ้ว่าสงสารกุมารเอ๋ย

กระไรเลยเตร็ดเตร่เที่ยวเร่ร่อน

ไม่คิดยากหมายฝากชีวาวอน

ต่างเมืองอุตส่าห์จรกระเจิงมา

อกจะหักด้วยความรักไม่เหมือนคิด

หมายมิตรก็ไม่สมปรารถนา

จึงหลีกเลี่ยงเลยลัดเข้าวัดวา

ทรมาบวชเบื่อระบมใจ

อนึ่งวัดกับบ้านก็พานห่าง

ไกลทางเที่ยวบิณฑบาตได้

พอเห็นสีกาแล้วกลับไป

แสนอาลัยระลึกทุกเวลา

พ้นเพลเณรน้อยเข้ามาเล่า

ซบเซาซ่อนอยู่ที่หน้าท่า

ไม่มีใครที่จะได้สนทนา

แต่เวียนมามิได้เหนื่อยอนาถใจ

เสียดายรูปซูบโศกด้วยแสนรัก

จะปล้ำปลักทนทุกข์ไปถึงไหน

โอ้พิมนิ่มเนื้อนวลละไม

นอนนะแม่นอนในที่นอนนาง

โอละเห่โอละช้าพ่อเณรแก้ว

หลับแล้วฤาสายทองจะนอนบ้าง

กล่อมพลางนางพัดให้พิมพลาง

กางกรกอดพิมยิ้มละไม ฯ

พิมน้อยได้ยินสายทองพาดพิงมาถึงเณรแก้ว ดังนั้นก็ร้องว่า เอ๊ะพี่สายทองนี่อย่างไงนะกล่อมน้องเหตุใดเอาเณรมากล่อมให้ ลงไปใส่บาตรกันไม่ทันไรก็หลงใหลไปแล้วหรือคะพี่ ฮะเมื่อเช้าน้องถามสักเท่าไรไม่อยากรับ แต่เดี๋ยวนี้น้องจับได้ มิน่าเล่าไปอาบน้ำจึงช้ากว่าทุกวัน ไปเสียเถิดพี่สายทอง ไปนอนให้นอกมุ้งน้องเกียจคร้านจะทำนายฝัน ดีไม่ดีจะมาละเมอกอดน้องให้วุ่นไปอีก

สายทองได้ยินพิมว่าก็ทำหน้าขึงร้องว่า ฟ้าผ่าเถิดไรมาเป็นเช่นนี้ไปได้ จริง ๆ นะคะพี่พลั้งไป เอาเถิดไหน ๆ ก็เผลอพูดไปแล้วจะเล่าความจริงให้น้องฟัง วันนี้เมื่อตอนพี่ไปอาบน้ำเจ้าเณรแก้วมาแอบอยู่ที่พุ่มนมแมว พิมน้อยจึงว่าไม่ต้องมาเล่าให้น้องฟังหรอกน้องไม่ทุกข์ร้อนชะรอยว่าพี่คงไปพบโชคแล้วอย่างนั้นหรือ มิน่าเล่าเมื่อตอนใส่บาตรเห็นประหลาดมองตากันอยู่ สายทองว่า หาใช่อย่างนั้นหรอกเจ้าพิมเอ๋ย เมื่อวานเณรแก้วมาปรึกษากับพี่ว่าน้องนั้นเมื่อเล็กเคยเป็นเพื่อนเล่นกันมา แต่ครั้นเกิดความวิบัติขัดแค้นจากสุพรรณไปกลับมาพิมน้องจะทักสักคำก็มิได้ช่างใจจือใจดำนัก หากว่ามิได้สนใจใฝ่รักน้องพิมแล้ว ไหนเลยจะซมซานจากเมืองกาญจน์มาถึงนี่ เจ้าก็รู้อยู่แล้วว่าเมืองกาญจน์ใช่จะไร้วัดไร้วาก็หาไม่ ครั้นลงมาเทศน์พิมน้องก็หนีเสียก่อนจบกัณฑ์ จะว่าฝ่ายผู้ใหญ่แม่ศรีประจันกับแม่ทองประศรีก็ชอบพอกันมาแต่ก่อนรู้เช่นเห็นเชื้อกันว่าใครเป็นอย่างไร แม้นพิมมิปรานีก็ไม่เป็นไรขอให้ได้พบพิมสักหนแล้วจะลากลับไปรักษาแผลหัวใจเอาเอง พิมเอย เจ้าเณรสนทนาพลางก็มีดวงตาอันแดงช้ำ เหมือนหม่นหมองว่าจะไม่สมอารมณ์หวัง สั่งพี่มาว่าให้วอนพิมน้องดูเช้าตรู่จะมาฟังความ พี่เองคิดแล้วก็หาปลงตกไม่ว่าใจของเจ้าเณรแก้วจะแน่วแน่หรือว่าคดงอ แม้จะขับขู่อยู่หลายครั้งก็ยังยืนคำเป็นขาเดียวอยู่ พิเคราะห์ดูถ้าไม่หมายมั่นแล้วไยจะดั้นมาถึงสุพรรณ คงจะเป็นคู่กันแต่ปางก่อนก็อาจอยู่ มาตรว่าจะคิดด้วยนิมิตที่แม่ฝันก็ยิ่งพาให้เชื่อว่าเห็นจะไม่แคล้วกัน

พิมนั้นอันที่แท้แล้ว แม้สายทองจะมิปองเป็นสื่อชักก็ผูกรักในเจ้าเณรแก้วราวกับเหล็กเพชรตรึงอยู่ในสกลสกาย ทุกเพลาครวญอยู่แต่หน้าเจ้าเณรแก้ว ครั้นสายทองพูดต้องใจแล้วก็ชวนให้ใฝ่ฝันยิ่ง ทว่ามารยาหญิงนั้นสุดที่จะรับโดยซื่อ กระบิดกระบวนด้วยมารยาเป็นครู่ใหญ่ แล้วจึงยิ้มเยือนมาพาที สายทองพี่ข้าขอบใจนัก ช่างรักนวลสงวนน้องมิให้ต้องเถ้าธุลีลม จะเดินเหินเพลินอารมณ์เฝ้าสอนสั่งมิให้มองไปไกลอื่น มีชายหมายมั่นมุ่งมาก็กันกีด ข้าสิตั้งจิตมอบใจถวายชีวิตให้กลับมาเป็นได้ชักเณรแก้วประเคนมา คิดว่าจะดีหรือชั่วเล่าพี่สายทองขาหรือไยว่ากลายเป็นแม่สื่อชัก สมคบคิดเพลงรักกับเณรแก้ว มิสะใจแล้วจึงลวนลามมาถึงข้า อนิจจาไม่น่าจะเป็นดังเช่นนี้ มิใช่ว่าปฐพีจะไร้ชายไปเสียหมดจึงคิดคดล่อลวงให้ลุ่มหลง พี่หมายปลงใจรักสมัครใจมั่นก็แต่พี่เถิด พิมหาอิจฉาพี่ไม่หรอก

สายทองกล่าวตอบว่า ไยพิมน้องมาทิ่มตำให้พี่ช้ำถึงชาไม่ปรานี อันสายทองพี่นั้นตระกูลทาสหรือจะเทียมไท ใคร ๆ ก็เข้าใจไยจะเอาพิมเสนมาแลกเกลือ เณรแก้วก็รู้เชื้อชาติสันดานพี่สายทองนี้เปรียบเหมือนแหวนก็แหวนตะกั่ว จะรับรองเรือนเพชรหาควรไม่ สายทองนี้แสนอาภัพนัก สงสารรักที่ต้องมาครวญอยู่แต่ผู้เดียวน่าเวทนา ถ้าพิมเห็นว่าเชื่อมิได้แม่สายทองแล้วก็จะหยุดพรรณนาความเสีย แม้แต่นิมิตพิมน้อยจะได้ชมบัวทองก็เพราะสายหรอก ถ้ามินำพาก็น่าจะกินน้ำตาปนกับข้าว ดีแล้วเล่าคราวหน้าอย่ามาหารือกับสายทอง มิเชื่อก็ลองจะร้องไห้ถึงแม่เฒ่า คราวนี้แหละเล่าจะต้องกลืนข้าวเป็นกลืนยา พิมเอยชั่วดีถี่ห่างพี่ก็อาบน้ำมาก่อน อย่าตะบึงตะบอนเลยคะหม่อมแม่

เจ้าพิมถูกสายทองย้อนเอาเจ็บ ๆ ยังหากล้าที่จะรับตรง ๆ ไม่ หากย้อนไปด้วยน้ำใจแห่งความงอน ฮะฮ้าน่าขันจริงนะหม่อมพี่ ใครเขารู้ดีไม่ต้องมาสั่งสอน นี่มิโดนประเคนสินบนสักกี่ชั่งมากล่าวอ้างตั้งคอขู่อยู่ฟ่อ ๆ เอาความสัตย์ที่ไหนมาล่อว่าเจ้าเณรนั้นพูดจริงไม่ทิ้งข้า ดีไม่ดีในภายหน้าเกิดวิปริต ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน จะยอมเสียตัวก็เพราะกลัวพี่จะเคือง แต่มาตรึกตรองก็เห็นท่าจะไม่เป็นผล ถ้าขืนเชื่อคำเณรพลายไม่อายคนแล้วก็น่าฟัง ถ้าเขาชังทิ้งน้องพิมจะไปถองพี่สายทองได้ละฤา ช้าช้าได้พร้าสองเล่มงาม ผลีผลามจะเสียของรัก พี่สายทองตระหนักดูให้ดีเถิดถ้าหากมีขันหมากไม่ประดักประเดิดพิมจะยอมตาย

เห็นน้องเอนมาจนเกือบหมดสายป่าน สายทองก็ยิ้มอยู่ในหน้าแล้วว่าไป โอพิมนิ่มน้องของพี่เอ๋ย อย่ากลัวเลยพี่หาเป็นเช่นนั้นไม่หรอก เจ้าก็เป็นสุดที่รักของพี่ไม่ดีหรือพี่จะชักพาให้ดวงตาของพี่ต้องมัวหมอง เห็นสมศักดิ์สมศรีสมตระกูลประยูรวงศ์ เหมือนเหมหงส์เคียงคู่เหมราช เหมือนทองคำธรรมชาติคู่กับเพชรมณี ถ้าจะเปรียบยศก็มีคนนับถ้าจะเปรียบทรัพย์ก็เสมอกัน จะเอาขึ้นตราชูมาชั่งก็สมควรกันทุกสิ่ง จะหมายรูปลักษณาก็โสภาทัดเทียม ดังอาทิตย์เข้าเคียงจันทร์ พิมแม่เอยน้องแก้วจงฟัง ถ้าได้นั่งเรียงเคียงบนเตียงทองสองเจ้าเมื่อไร แม้ยามร้อนพี่จะกระพือพัด ห้องหับสารพัดไว้เป็นพนักงานสายทองจัดฟูกหมอนที่นอนนิ่มของพิมเจ้ามิให้ใครเกินกว่า มุ้งแพรแลวิไลตาจะเตรียมพร้อม ภู่กลิ่นห้อยย้อยบริบูรณ์สิ้น เครื่องประทินกลิ่นสุคนธ์มิให้ขาด สายทองจะนั่งพึ่งบุญน้องเจ้าด้วยใจอันสดใส จะเป็นเกือกทองรองบาทาไปจนสิ้นชีพ มิได้โป้ปดเลยนะแก้วตา

มาตรว่าเจ้าเณรแก้วจะอาสัตย์ ทนสะบัดสบถสาบานจะเรียกขานว่าพี่ใยเล่า น้องเจ้าจงส่งมันให้เป็นทาส ให้ตักน้ำตำข้าวมิให้ขาดทุกเช้าเย็น ให้เคี่ยวเข็นมิให้เงยหน้า ทั้งเฆี่ยนตีดุด่าให้สาสม

พรุ่งนี้เจ้าเณรน้อยจะมา พิมเจ้าลงไปใส่บาตรกับพี่จะได้เจรจาพาทีนัดกันเสีย ให้แจ้งไปไร่จะได้พบกัน นอนเสียเถิดแก้วตามาพี่จะกอดให้ พิมน้อย เออ พระจันทร์ลอยละล่อง ห่วงแต่เจ้าเณรน้อยจะละห้อยหา พิมน้อยคล้อยตามคำพี่จนกระทั่งเดือนเคลื่อนคล้อยน้ำตาย้อยหยาดเย็น เสียงนกน้อยละเมอพึมพำอยู่ในพุ่มไม้ใกล้บ้านทั้งสองก็สำราญหลับไปในราตรี