ฝ่ายเจ้าพลายแก้วเมื่อกลับมาถึงวัดแล้วก็ยังหาบวชไม่ คอยดูฤกษ์ประมาณได้สักสองยาม ดวงเดือนเคลื่อนคล้อยมองดูเมฆเห็นขาวช่วงดุจดวงดาว ทั้งพิเคราะห์ดูหลาวเหล็กและผีหลวงเห็นปลอดโปร่งก็ดีใจนัก ก้าวเท้าออกไปตามทิศตามตำราทันที
มิช้าก็มาถึงบ้านนางพิม เจ้าแก้วภาวนาคาถาอาคมเสกข้าวสารหว่านหลังคาบ้าน สะกดให้คนในบ้านหลับหมดแล้ว ก็ภาวนาคาถาซ้ำสะเดาะกลอน กลอนประตูก็ลั่นออกด้วยตนเองหมดทุกบานทุกช่อง เจ้าพลายแก้วเข็นครกขึ้นมาแล้วเหยียบขึ้นบนเรือน ย่องกริบหมายห้องเจ้าพิมน้อย
ของโตกพานเชี่ยนขัน ทั้งโถเครื่องแป้งแต่งไว้ดูน่ารัก มีคันฉ่อง มีเครื่องทอง พานหมาก เครื่องนาก มีม่านปักไว้อย่างงดงามมาก ฉากหนึ่งปักเป็น ศิลปสุริยา เมื่อพานางมาถึงกลางแม่น้ำกว้างก็พลัดกัน ปักเป็นรูป นางรัตนา อุ้ม สิงหรัด ท่องเที่ยวไปตามป่า มาถึงศาลา พระฤาษี ขอให้พระฤาษีชุบสิงหรา ปักเป็นพระศิลปสุริยาเที่ยวหานางรัตนาไม่พบจนกระทั่งค่ำ จึงได้เข้าไปอาศัยสวน ท้าวกุตา แต่ละฉากเจ้าพิมปักไว้อย่างสวยสดงดงาม เจ้าพลายแก้วชมม่านแล้วก็รูดเสีย เปิดมุ้งเห็นเจ้าพิมนอนนิ่งสนิทอยู่ ทรวงอกกระเพื่อมอยู่รำไร แก้มสองแย้มยิ้ดังจะเชิญชวนให้พี่มารับขวัญ
เจ้าพลายแก้วมองแล้วไม่สามารถจะทนสิเนหาอยู่ได้ ก็ก้มลงรับขวัญทั้งกำลังหลับ แล้วเลื่อนลดลงนั่งแก้สะกดด้วยมนต์เป่าพลางว่า พิมเจ้าพี่เอยตื่นขึ้นเถิดเจ้าแก้วของพิมมาแล้ว
แม้จะหลับแต่ใจก็ยังพะวงอยู่ ดังนั้นพอได้ยินเสียงเรียกอยู่แว่ว ๆ เจ้าพิมก็สะดุ้งตื่นผวาขึ้นพลิกกายมองเห็นพลายแก้วเข้ามานั่งอยู่ข้างเตียง ใจหนึ่งก็ยินดีแต่อีกใจหนึ่งก็ประหวั่นค้อนแล้วว่า ดูดู๋ กลอนขัดอยู่ยังสะเดาะเข้ามาได้ นี่กลางไร่ยังไม่พอยังอุกอาจเข้ามาถึงเรือนอีกหรือ น้องบอกแล้วไงว่า ถ้ารักน้องจริงก็ให้สู่ขอต่อพ่อแม่ จะมาทำหักหาญถึงบ้านข้ายังแค้นอยู่ไม่หาย เนื้อตัวริ้วรอยเป็นลายเพราะใบฝ้าย ไม่เอาละไปเสียเถิดอย่ามายุ่งเลย ดูซีมือไม้ก็หนักอะไรอย่างนี้ ดีไม่ดีแม่รู้เข้าไม่ตายก็คงหลังลายตลอดเท้า
เจ้าพลายแก้วรู้ดีว่าเจ้าพิมนั้นเอาแต่ปากว่า แต่ในใจหาใช่เหมือนปากไม่ จึงประคองแล้วว่าอย่าขับไล่พี่เลยดวงใจ พี่สู้ยอมตายไม่เสียดายแก่ชีวิต บุกมาหาพิมถึงบ้านก็เพราะความรัก และเพราะมาสำนึกในความผิดที่ได้กระทำแก่เจ้าไว้เมื่อตอนกลางวัน ถ้าพี่มิได้มาขอโทษเจ้าแล้วที่ไหนพี่จะนอนหลับตาลงได้ โถเจ็บปวดตรงไหนบอกพี่เถิดพี่จะเป่าให้ เออไหนว่าเป็นริ้วเป็นรอยเอามาดูที ไม่เห็นมีสักหน่อย เจ้าพลายพูดพลางก็ลูบคลำเย้ายวนให้ยั่วใจอยู่ไปมา เจ้าพิมน้อยร้องว่า ไฮ้อะไรกันนี่ อยากจะรู้นักใครเขาวอนให้มาถามจู้จี้จุกจิก ถึงจะเจ็บจะปวดตรงไหนก็ช่างเขาเถอะ เขาไม่ได้เชิญให้มาเป็นหมอรักษา นี่จะมาจับมือถือแขนทำเล่นเหมือนเช่นเมียผัวอย่างนี้นะ ประเดี๋ยวร้องให้เอ็ดตะโรเลย บอกนะว่าปล่อยแล้วไปเสีย อย่ามาทำข่มเหงเหมือนกลางไร่ไม่ได้ นี่บ้านข้าไม่รู้หรือ
เจ้าพลายแก้วว่า เมื่อไม่เมตตาแล้วก็ฆ่าพี่เสียเถิดน้อง จะตะโกนร้องให้คนรู้หรือว่าจะเอามีดมาฟัน เรื่องที่จะให้พลายแก้วหนีไปนั้นหามีไม่หรอก อย่างดีก็จะกอดพิมน้องตายอยู่กับที่ พูดพลางก็กอดกระหวัดรัดร่างของนางเข้าไว้ในอก อย่าสะบัดไปเลยไม่พ้นมือพี่หรอก ไหนหันแก้มมาเสียดี ๆ ขอให้พี่ได้จูบให้อิ่มใจ
ใจรู้สึกวาบหวิวไปด้วยความรักและสิเนหา มือจะปัดก็ปัดด้วยมารยา เจ้าพิมจึงว่า
ประเดี๋ยวจับประเดี๋ยวจูบเฝ้าลูบชม |
แก้มกับนมนี่เจ้าซื้อมาฤาขา |
ทำเล่นเป็นเหมือนเชลยมา |
ฟ้าผ่าเถอะไม่ยั้งไม่ฟังกัน |
จะหยิกเท่าไรก็ไม่เจ็บ |
ฉวยเล็บมาจะหักให้สะบั้น |
อุยหน่าอย่าทำที่สำคัญ |
ฟาดฟันเอาเถิดไม่น้อยใจ |
ทำเล็บหักเหมือนไม่รักพี่จริงจัง |
ถึงเงินชั่งหนึ่งหารักเท่าเล็บไม่ |
เข้าชิดสะกิดพิมยิ้มละไม |
อุ้มแอบอกไว้ด้วยปรีดา |
เอนอิงพิงประทับลงกับหมอน |
สะอื้นอ้อนอ่อนแอบลงแนบหน้า |
กระเดือกเสือกสิ้นอยู่ไปมา |
เกิดมหาเมฆมืดโพยมบน |
ฮือฮืออื้อเสียงพยุพัด |
กลิ้งกลัดเกลื่อนกลุ้มชอุ่มฝน |
เป็นห่าแรกแตกพยับโพยมบน |
ไม่ทานทนทั่วกระทั่งทั้งแดนไตร ฯ |
เมื่อรักแรกมาประทับใจเสียดังนี้ สิเนหาก็รัดรึงใจเจ้าพิมจนไม่ยอมห่างเจ้าพลายแก้ว เอาสไบบางซับเหงื่อแล้วพัดวีให้เจ้าแก้ว นอนไม่ยอมเคลื่อนคลาดไปจากเจ้าแก้ว เอากระแจะจันทร์มาละลายทา ทั้งหาของหวานมาป้อนมิให้ขาด แล้วพร่ำสนทนากันด้วยความรักกันอยู่ จู๋จี๋มิใคร่จะงีบหลับลงไปได้ จนกระทั่งพระจันทร์กระจ่างฟ้าเร่งราชรถไปสู่ทิศทาง เสียงนกกาไก่สนั่นก้องบอกอรุโณทัย น้ำค้างตกอยู่เผาะเผาะ เจ้าพลายแก้วก็ได้สติกล่าวลาน้องด้วยคำหวาน พอย่ำแสงสุริยาวันพรุ่งพี่จะมาอย่าได้สงสัย อยู่เถิดแก้วตาพี่จะลาไป ใจพี่นี้จะขาดลงรอนรอน
สดับเสียงลาของคนรักทำให้หัวใจของเจ้าพิมแทบจะขาดตามเสียงลาไปด้วย สะอื้นอ้อนกอดเจ้าแก้วไว้แล้วว่า พ่อมากอดให้พิมนอนแล้วพ่อมาจากพิมไป อนิจจาก็สาสมแก่ตัวแล้วที่ปล่อยให้อารมณ์ชั่วมากลั้วเกลือก รักแล้วก็หาสบายไม่ เช้าค่ำก็จะร่ำโศกอยู่ร่ำไป อีกเมื่อไรจึงจะหายคลายรำคาญลง พี่รักพิมแล้วใยหนอจึงแกล้งมาหักต้นโค่นทิ้งให้ทรมานอยู่ มิทันไรรักก็แรมร้างห่างไปไกลจากต้น นี่หากแม่ตีหรือพี่สายทองด่าน้องจะได้ปรึกษาหารือกับใคร ที่ไหนพ่อจะรู้เรื่องราว พ่ออยู่วัดแต่พิมอยู่บ้าน พิมจะด้านหน้าไปหาอย่างไรได้ ค่ำแล้วพ่อจงมาหาพิมให้เห็นหน้าทุกคืนพอชื่นใจ
เจ้าพลายแก้วประโลมน้องแล้วว่า อย่าได้รันทดระทมไปเลย พี่รักแล้วหาได้มุ่งหมายจะห่างเหินไปไม่ อย่าเสียใจไปเลยพี่จะมาหาน้องทุกคืน พี่เองจากพิมก็เหมือนร่างของพี่ต้องปืนแทบจะฝืนใจไปไม่ได้ ความรักความอาลัยของพี่นี้หนักนัก เห็นแสงทองส่องฟ้าเหลืองรำ ๆ อรุณจะสู่ฟ้า เจ้าพลายแก้วพะวักพะวนอยู่ไปมา พร่ำกอดพร่ำจูบกว่าจะลารักไปได้ ก็ได้ยินเสียงไก่กระชั้นเสียงเตือนมาอีกครั้ง เจ้าพลายแก้วจึงได้ตัดใจออกจากบ้านมาถึงวัดแล้วก็ให้หลวงตามีบวชให้ใหม่